รีวิวเสริมคาง เจ็บหรือเปล่า?
ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเสริมคางเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับสาว ๆ ที่อยากจะแก้ไขรูปหน้าให้สวยเป๊ะตามต้องการ ไม่ว่าจะเสริมด้วยการผ่าตัด หรือการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขให้คางมีรูปร่างเรียวเล็กลงได้รูปมากยิ่งขึ้น การทำศัลยกรรมเสริมคางสามารถที่จะช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดูดีขึ้นได้ เช่น รูปคางดูนูนขึ้น รูปคางกว้างขึ้น หรือทำให้รูปคางดูยาวขึ้น
โดยปกติใบหน้าของคนเราจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ส่วนบนคือส่วนของหน้าผาก ส่วนที่ 2 คือ ส่วนกลางคือส่วนทั้งหมดที่อยู่ต่ำกว่าส่วนที่ 1 (หน้าผาก) และอยู่เหนือส่วนที่ 3 (จมูกลงมา) ส่วนที่ 3 คือ ส่วนล่างคือส่วนที่อยู่ต่ำกว่าจมูกลงมา สำหรับผู้ที่มีใบหน้าสวยนั้น ใบหน้าที่ 3 ส่วนจะมีสัดส่วนที่เท่ากัน การทำศัลยกรรมเสริมคางอาจจะไม่ดีเสมอไป สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องคางหลบหรือคางสั้น ผู้ที่เหมาะสมที่จะทำการศัลยกรรมเสริมคาง ยังต้องมีองค์ประกอบไปด้วย โครงสร้างส่วนของฟันและฟันกรามที่จะต้องมีความแข็งแรง และสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงร่างกายจะต้องมีภูมิต้านทาน เพื่อที่จะป้องกันอาการอักเสบหรืออาการติดเชื้อได้ในภายหลังการทำศัลยกรรมเสริมคางด้วย
ก่อนที่สาว ๆ จะตัดสินใจเสริมคางหรือบางคนเสริมมาแล้ว วันนี้ไม่ควรพลาด !!! เรามีเคล็ดลับวิธีการดูแลตัวเองหลังเสริมคาง เพื่อให้แผลหายเร็ว ๆ มาฝาก
-ในช่วง 3 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรกินอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนที่ไม่ต้องเคี้ยวมาก เพื่อลดการกระทบกระเทือนของบาดแผล และบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหลังกินอาหารทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เศษอาหารไปติดที่ปากแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
-หลังการผ่าตัด 3-4 วัน อาจมีอาการปวดบวมที่บริเวณแผลได้ แต่หากปวดมากผิดปกติควรกลับไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาทันที
-หลังการผ่าตัด 2-3 วัน ควรนอนเอนหลังยกศีรษะสูง เพื่อช่วยลดอาการเลือดคั่งที่แผล และแผลจะได้ไม่บวมมาก นอกจากนี้ ควรประคบเย็นบริเวณแผล วิธีนี้จะช่วยให้แผลหายจากอาการบวมได้เร็วขึ้นค่ะ
-อย่ารับประทานอาหารรสเผ็ดจัด หรือดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ 7 วัน เป็นการป้องกันไม่ให้เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้ามาก ซึ่งเป็นสาเหตุของการบวม
อย่างไรก็ตาม วิธีที่เรานำฝากนี้ เป็นเพียงวิธีพื้นฐานเท่านั้น หากคุณมีอาการผิดปกติจากการศัลยกรรม หรือสงสัยว่าตัวเองมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ที่สำคัญที่สุด สาว ๆ ควรศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ และควรเลือกใช้บริการจากสถานบริการที่ได้มาตรฐานด้วยนะคะ อ่านรีวิว ที่นี่ https://thailandclinics.com/